Thursday, November 29, 2012

สแกน′นิ้วมือ′แสดงตัวตน สแกน′ศักยภาพ′เด็ก

กำลังได้รับความนิยมในหมู่ "พ่อแม่ยุคใหม่" ที่ไม่อยากเสียเวลาในการค้นหา "พรสวรรค์" ของลูกด้วยการพาลูกน้อยไปเรียนพิเศษ "อัด" ทุกสาขาวิชา ทั้งวิชาการ ดนตรี ศิลปะ กีฬา เพื่อให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต สำหรับนวัตกรรมใหม่ "สแกนลายนิ้วมือ" ที่เพิ่งเข้ามาในเมืองไทยประมาณ 2 ปี หลังจากที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในจีน หรือไต้หวัน 




แม้ราคาใช้บริการจะค่อนข้าง "สูง" แต่พ่อแม่หลายคู่ก็ยินดีควักกระเป๋าจ่าย

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ "ยาจิตร ยุวบูรณ์" เจ้าของฉายาหมอดูกิตติมศักดิ์ ปัจจุบันเขียนคอลัมน์ดูดวงให้นิตยสาร "ดิฉัน" มากว่า 10 ปี เล่าว่า การสแกนลายนิ้วมือ มีประวัติศาสตร์ 200 ปีกว่า นักวิทยาศาสตร์แถบประเทศยุโรปค้นพบว่า ลายนิ้วมือเชื่อมโยงกับสมอง ขณะที่เมื่อ 2,000 ปีก่อน ชาวจีนค้นพบว่า ลายนิ้วมือเป็นเครื่องยืนยันแต่ละคน และลายนิ้วมือของคนเราไม่เหมือนกันเลย ยกตัวอย่าง เอฟบีไอ ก็จะใช้ลายนิ้วมือในการยืนยันคนๆ นั้น หรือการทำบัตรประจำตัวประชาชนรวมทั้งพาสปอร์ต หรือเปิดบัญชีธนาคาร ก็ปั๊มลายนิ้วมือเพื่อเก็บประวัติของคนๆ นั้นไว้เช่นกัน 

"การดูลายนิ้วมือสามารถดูได้ตั้งแต่เด็กๆ เพราะการพัฒนาลายนิ้วมือเริ่มต้นสัปดาห์ที่ 13 ที่อยู่ในครรภ์มารดา และพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ในสัปดาห์ที่ 24" 

การค้นหาศักยภาพสมองด้วยลายนิ้วมือ จึงเหมือนเป็นการ "ไขรหัสลับ" เพราะเยื่อสมองแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ประกอบลายนิ้วมือ 3 ประเภทหลัก คือ ลายก้นหอย, ลายมัดหวายปัดก้อย, ลายโค้ง ถ้าลายนิ้วมือแบบใดปรากฏในสมองส่วนไหน ลักษณะพฤติกรรมจะแสดงออกมาแบบนั้น 
"ลายก้นหอย บ่งบอกถึงความเป็นตัวของตัวเองสูง มีลักษณะผู้นำ ส่วนลายมัดหวาย มีลักษณะพึ่งพากฎเกณฑ์ อดทน ไม่ชอบความขัดแย้ง ขณะที่ลายโค้งบ่งบอกลักษณะของคนที่เป็นเหมือนฟองน้ำ ซึมซับความรู้ได้ตลอดเวลา" ยาจิตรยกตัวอย่าง ก่อนทิ้งท้ายว่า 
"ลายนิ้วมือจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต เป็นไอดี หรือ ยีนส์ของคนๆ นั้น การดูลายนิ้วมือจึงเหมือนเป็นไบเบิ้ลชีวิตที่จะบอกถึงพรสวรรค์ของลูกที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด รวมทั้งรูปแบบบุคลิกของลูก" 
หนึ่งในคู่พ่อแม่รุ่นใหม่ที่พาลูกชายวัย 2 ขวบกว่าๆ เข้ารับการสแกนนิ้วมือ "ปุ่น-แหม่ม" เล่าว่า ก่อนพาลูกมาสแกนลายนิ้วมือปรึกษากันว่าจะให้ลูกทำทุกอย่าง ตั้งแต่เล่นไวโอลิน เปียโน ศิลปะ ตีกอล์ฟ เรียนภาษา จะอัดลูกทุกอย่าง เพื่อให้เขามีความสามารถรอบด้าน 

"แต่พอมาสแกนนิ้วมือทำให้รู้ว่า เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนรับได้ในสิ่งที่พ่อแม่พาไปเรียนทุกอย่าง มีความสามารถในการเรียนรู้หลายๆ อย่างพร้อมกัน แต่เด็กบางคนเรียนรู้ได้ทีละอย่าง สองอย่าง ถึงจะเก่งแค่ไหนก็เรียนรู้ได้ทีละอย่างสองอย่างเท่านั้น"

"ทีนี้ ลูกของเราเป็นเด็กที่เรียนรู้ได้ทีละอย่างสองอย่าง ไม่อย่างนั้น น้องจะกดดัน เครียด พอรู้อย่างนี้ ก็ทำให้เรารู้ว่าเราจะเลี้ยงลูกอย่างไร" 

"นอกจากนี้ ผลสแกนยังบอกอีกว่า น้องไม่เก่งด้านตรรกะ คือไม่เก่งเลข แต่น้องมีความสามารถด้านศิลปะ พอรู้ว่าน้องไม่เก่งเลข ทำให้เรารู้ว่า น้องจะไม่ได้เป็นแพทย์ เป็นนักวิชาการ แต่จะเป็นศิลปิน พอรู้ว่าน้องถนัดอะไร ก็ทำให้เรารู้ว่าต้องเสริมน้องด้านไหน" 

คุณแม่แหม่มและคุณพ่อปุ่นบอกว่า พอรู้แบบนี้ทำให้เลี้ยงลูกสบายขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ทั้งคู่ก็เป็นเหมือนพ่อแม่หลายคนที่พยายามอัดทุกอย่างให้ลูก ส่งเสริมลูกให้มากที่สุด 
"พ่อแม่บางคนก็จะอัดวิชาการ บางคนอัดเรื่องความบันเทิง บางคนอัดจนลูกจบหมอ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ทำอาชีพแพทย์ แต่หักเหชีวิตไปเป็นศิลปิน" 
นอกจากเลี้ยงลูกสบายขึ้น ทัศนคติในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่คู่นี้ก็เปลี่ยนไปด้วย 

"ตอนนี้ไม่ตั้งเป้า แต่หวังว่าน้องจะได้ทำทุกอย่างที่รักและมีความสุข ตั้งเป้า อย่างเดียว คือน้องแฮปปี้ อยู่ในสังคมมีความสุข ไม่ต้องสานธุรกิจพ่อแม่ ไม่ต้องอะไรเลย ขอให้โตขึ้นมามีความสุข เมื่อก่อนนี้คิดเยอะมาก จะให้ลูกทำอะไร สานต่อธุรกิจไหม ทั้งที่ลูกยังไม่เข้าอนุบาลเลย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้จะตั้งใจเลี้ยงลูกแบบไม่ต้องเก่ง ไม่ต้องเป็นหมอ ไม่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ขอให้มีความสุขก็พอ" แหม่มว่า

ก่อนที่คุณพ่อปุ่นเสริมว่า 

"คิดเหมือนภรรยา ให้มีความสุขไว้ก่อน แต่ต้องให้ลูกมีความสามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคตมากกว่า ไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะแยะ ผมว่ามันเหนื่อย ทุกวันนี้ สังคมแก่งแย่งชิงดี พอแย่งเยอะๆ อะไรมากๆ มันไม่มีความสุข เพราะต้องคอยกดดัน แคร์สังคมรอบข้าง พ่อแม่ตั้งเป้าหมายไว้ ลูกต้องทำให้ได้เพื่อพ่อแม่ แต่ไม่ได้เป็นตัวของเขาเอง เขาก็จะไม่มีความสุข" 

"ฉะนั้น เราอยากเลี้ยงลูกให้ลูกมีความสุข มากกว่าให้เรามีความสุข" แม่แหม่มและพ่อปุ่นทิ้งท้าย
ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ว่าลูกเก่ง ฉลาด ดี เลิศ ด้านใด แต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าพ่อแม่มอบความรักความอบอุ่นให้ลูกน้อยอย่างเต็มที่และเข้าใจ ไม่ว่าเขาจะเก่งหรือไม่เก่ง อย่างน้อยเขาจะเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุข


ที่มา

Monday, November 19, 2012

Getting Started with Evernote Web Clipper | Evernote





Getting Started with Evernote Web Clipper | Evernote: "vernote Web Clipper is available for Internet Explorer, Chrome, Firefox, and Safari. You can also bookmark a special link on other browsers to add Web Clipper functionality.

Evernote Web Clipper is automatically available in Internet Explorer when you install Evernote for Windows. For other browsers, download Evernote "

'via Blog this'

Monday, August 13, 2012

Thai Trip

Welcome to thai trip
Good reservation promotion form agoda to Thailand  :)

Sunday, August 12, 2012

Thai Handmade Bag

Thai Handmade Adorable Patchwork Owl Sling Bag Shoulder Bag Full Color 1


Sound of Siam

Track Listings

1. Lam Tung Wai
2. Lam Toey Chaweewan
3. Mae Kha Som Tam
4. Isan Klab Tin
5. Fai Yen
6. Sao Ban Pok Pab
7. Wan Maha Sanook
8. Soul Lam Plearn
9. Ding Ding Dong
10. Nom Samai Mai
11. Lam Plearn Toh Lom Nhao
12. Sao Lam Plearn
13. Mae Jom Ka Lon
14. Pen Jung Dai
15. Diew Sor Diew Caan
16. Uay Porn Tahan Chaydan
17. Kai Tom Yum
18. Pleng Yuk Owakard
19. Tang Ngarn Si Nong